เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 14 มกราคม ที่อนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำคณะรัฐมนตรี อาทิ พล.อ.ฉัตรชัย สาลิกัลยะ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำปาง และกราบสักการะอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา โดยรถยนต์อัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน งข 2700 เชียงใหม่ ซึ่งมีข้าราชการ รวมถึงประชาชนมารอให้การต้อนรับ พร้อมตะโกนให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า “ลุงตู่สู้ๆ” นอกจากนี้ ยังมี นายชวน ชูจันทร์ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พร้อมด้วยที่ผู้สมัครทีมภาคเหนือทั้ง 9 เขต อาทิ นางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคความหวังใหม่ ว่าที่ผู้สมัครเขต 4 ร.อ.หญิงเดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ อดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ว่าที่ผู้สมัครเขต5 นายสันติ ตันสุหัช อดีต ส.ส.เชียงใหม่ ไทยรักไทย ว่าที่ผู้สมัครเขต6 ทั้งนี้นายชวน ยืนยันว่า ที่มาในวันนี้ไม่ได้เรื่องการเมืองหรือมาทาบทามให้เป็นนายกฯในบัญชีพรรคแต่อย่างใด เพียงแค่มาให้กำลังใจและมาไหว้พระ ขณะเดียวกัน นายพูลพัชร พูลเจริญ ชาวนา’กองหนุนลุงตู่-เอฟซี’ ได้นำกองเชียร์กลุ่มเชียงใหม่-สันกำแพง ที่สวมเสื้อเขียนคำว่า “กองหนุนลุงตู่ เชียงใหม่ เฮาฮักลุงตู่” มาให้กำลังใจพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวเคยมาให้กำลังใจเมื่อครั้งพล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ประชุมครม.สัญจร เชียงราย-พะเยา เมื่อเดือนตุลาคม 2561 แล้วได้เข้ามาชูป้ายให้กำลังใจและชวน พล.อ.ประยุทธ์ มาเชียงใหม่ในเดือนมกราคม โดยการมาเยือนเชียงใหม่ครั้งนี้ จึงเป็นการทำตามสัญญาที่ให้ไว้ เพราะพล.อ.ประยุทธ์เคยกล่าวไว้ว่า คนเป็นนายกรัฐมนตรีต้องไปได้ทุกที่ ขณะที่กลุ่มกองหนุนลุงตู่ ยังมีการแบ่งจุดไปให้กำลังใจตามสถานที่ต่างๆ ที่พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่วันนี้ โดยทางกลุ่มดังกล่าว ไม่รู้สึกกังวลแม้ จ.เชียงใหม่เป็นถิ่นคนเสื้อแดง เพราะพล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่คนที่แบ่งสีเสื้อ เป็นที่น่าสังเกตว่าในบริเวณดังกล่าวมีแต่ผู้ที่สนับสนุน มีการสกรีนไม่ให้มีการถือป้ายต่อต้านแต่อย่างใด โดยนายกรัฐมนตรีได้ร่วมถ่ายรูปกับบรรดากลุ่มคนที่มาให้กำลังใจ ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีความรู้สึกอย่างไรที่มีแฟนคลับมาให้กำลังใจ นายกฯ กล่าวว่า “ทุกคนต่างก็เป็นเอฟซีทั้งหมด เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน สิ่งสำคัญ คือ ก็ต้องฝากประเทศชาติไว้กับพวกเขาทุกคน ฉะนั้นไม่ใช่ว่าเขามานิยมชมชอบผม ชอบผมเพราะทำไม่ดี มันไม่ใช่ ถ้าผมทำความดีแล้วมาชอบผม ก็เป็นบุญของผม คำว่าบุญของผม ก็คือจะทำให้ผมมีกำลังใจในการทำเพื่อประเทศชาติต่อไป”